การลงทุนมักจะมีความผันผวนในทุกตลาดยิ่งเสี่ยงมากยิ่งผันผวนมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้จังหวะการลงทุน “ซื้อถูกขายแพง ไม่สามารถเกิดกับทุกคน” จนมักจะมีคำพูดติดหูให้ได้ยินว่า “รู้อย่างนี้ ” ซึ่งตลาดคริปโทเคอเรนซี่สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นอีกตลาดที่หนีไม่พ้นเช่นกัน
ตลอดปี 2563-2564 ปีทองและมีความเคลื่อนไหวของบรรดาเหรียญสกุลดิจิทัลทั้งสัญชาติไทยและต่างประเทศ
รวมทั้งมูลค่าการซื้อขายที่มีขนาดมาร์เก็ตแคปมหาศาล จากทั่วโลกถึง 2.15 ล้านล้านดอลลาร์ มีมูลค่าการซื้อขาย 8.9 แสนล้านดอลลาร์ ต่อวัน จำนวนนักลงทุนเพิ่มเป็นเท่าตัว ด้วยการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้ราคาเหรียญสุดจะผันผวน ตลอด 1 ปี (27 ธ.ค.64)
ประเดิมด้วยเหรียญหลักที่สร้างปรากฎการณ์สกุลเงินดิจิทัล บิทคอยน์ หรือ BTC รอบ 1 ปี ราคาจาก 823,716 บาท มาทำราคาสถิติสูงสุดปี 2564 ถึง 2 ครั้งซ้อนๆ 64,400 ดอลลาร์ หรือทะลุ 2 ล้านบาท (13 เม.ย.64) แต่ราคาร่วงลงอย่างหนักหลุด 29,000 ดอลลาร์ (22 มิ.ย.64) หรือรวม 9 แสนบาท
ท่ามกลางการเข้ามาควบคุมการทำธุรกรรมซื้อขายของธนาคารกลางจีน ซึ่งปัจจุบันราคา BTC อยู่ที่ 1,711,767 บาท แม้จะมีการปรับตัวย่อลงมาแต่ยังถือว่าเป็นเหรียญที่ราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 107.81 %
เหรียญที่ตามมาติดๆ Ethereum หรือ ETH มีปรากฎการณ์สำคัญปีนี้ คือมีบริษัทลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐ “VANECK” เปิดกองทุน ETH ETF และยื่นกับก.ล.ต. สหรัฐ ตามมาด้วย บริษัทลงทุนฝั่งยุโรป และแคนดา
ที่สุดเหรียญดิจิทัล ปี 64 ผันผวนพร้อมทำสถิติราคา
รวมทั้งแผนการอัพเกรดครั้งสำคัญเพื่อสร้างสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ ขึ้นบนเครือข่าย และยังเป็นการลดค่าธรรมเนียม หรือ Gas Fee ปัจจุบันธุรกรรมเฉลี่ยที่ 15 ดอลลาร์ หรือประมาณ 450 บาท ด้วยการทำให้เหรียญ ETH ในระบบมีจำนวนน้อยลง เพราะเสนอส่วนหนึ่งที่จ่ายให้นักขุดถูกทำลาย หรือเผาเหรียญนั้นเอง ทำให้มีผลต่อราคา ETH จากต้นปี 22,122 บาท เพิ่มขึ้น 518.67 % มาอยู่ที่ 136,864 บาท
หันมาดูวงการเกมที่ถือว่าเข้าสู่เหรียญดิจิทัลคึกคักทำให้เป็นที่รู้จักสำหรับนักลงทุน เริ่มที่ทั้ง GALA มาจากบริษัท GALA Game ปล่อยเกมฮิต “Town star” และทำการอิงกับเทคโนโลยี Nonfungible tokens หรือ NFT ที่ประกาศขาย VOX จนทำให้มีความต้องการพุ่งสูงขึ้นตามมาด้วย Gas Fee เพิ่มขึ้นเช่นกันทำให้ราคาแตะ 25.30 บาท ปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ 18.52 บาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี เพียง 12 % ที่อยู่ที่ 16.55 บาท
และยังเชื่อมโยงกับ Binance ที่ออกเหรียญ BNB ที่สนับสนุนเหรียญ GALA เข้ามาซื้อขาย ซึ่ง BNB เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิทัลจากสิงคโปร์แต่ได้รับความนิยมทั่วโลกเป็นอันดับ1 จนทำให้มีหลายธุรกิจยอมรับเหรียญดังกล่าวราคาจาก 16,381 บาทปี 63 มาอยู่ที่ปลายปี 64ที่ 18,422 บาท เพิ่มขึ้น 12.45 % แต่ละหว่างทางขึ้นไปที่ 21,808 บาท
ขณะที่เกม “The Sandbox” ทำให้เหรียญ SAND ได้รับความนิยมจากการพัฒนาให้ผู้เล่นเป็นทั้งผู้สร้าง และยังซื้อขายในสิ่งสร้างขึ้นมาในแบบ Metaverse ด้วยผู้เล่นถึงระดับล้านคนต่อเดือนทำให้เหรียญดังกล่าวขึ้นไปถึง 232 บาท จากต้นปีราคา 10.67 บาท และปัจจุบันราคา 223 บาท เพิ่มขึ้น 1,989 %
ข้ามมายังเหรียญ LUNA แตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ ใช้สนับสนุนแพลตฟอร์มชื่อว่า Terra ของสัญชาติเกาหลีและรัฐบาลให้การยอมรับอีกด้วย ซึ่งนำ LUNA ไปใช้ในการปล่อยกู้ Decentralized Finance หรือ Defi และยังเป็นเหรียญเครือข่ายของ Stablecoin อิงมูลค่าเงินเฟียต และสกุลเงิน KRT ที่หนุนสกุลเงินวอนของเกาหลีใต้ จนสร้างการเชื่อมต่อชำระเงิน กับธนาคารในเกาหลีใต้ได้อีกด้วย
พูดถึงเหรียญยอดนิยมต้องมี Cardona หรือ ADA อยู่ด้วย มีรูปแบบเหมือนกับ ETH การเป็น Smart Contract นำไปใช้ใน Defi ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าและมีผู้ใช้งานให้การยอมรับจนมีผู้สมัครเปิดกระเป๋าเงิน (Wallet )มากถึง 2 ล้านบัญชี มี Gas Fee ธุรกรรมเฉลี่ยที่ 0.25 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7.5 บาท ราคาขยับจาก 52.41 บาท สูงสุดที่ 75.70 บาท และล่าสุดราคาลดลงมาอยู่ที่ 52.43 บาท แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง
เหรียญไม่พูดถึงไม่ได้เพราะมาแรงท้ายปี ของ BITKUB ที่ซื้อขายชื่อ “KUB” เกิดการเก็งกำไรราคาพุ่งทะยานไปถึงราคาสูงสุด 500 บาท (30 พ.ย.64) สัปดาห์เดียวผลตอบแทน 367 % ก่อนที่ราคาเหรียญจะร่วงระเนระนาดแห่เทขายเหรียญออกมาจนราคาลงอยู่ที่ 234 บาทในวันเดียวกัน ล่าสุดราคาทะลุ 500 บาททำนิวไฮ ตอบการเข้าธุรกิจไฟแนนซ์หลัง “ท็อป จิรายุ ทรัพย์ศรีโสภา” เป็นกรรมการบมจ. สยามราชธานี (SO) และการนำ KUB เข้าซื้อขายในกระดานต่างประเทศ 3 แห่ง
และเหรียญ JFIN ของ บมจ. เจ มาร์ท หรือ JMART ที่ปล่อยเหรียญมาตั้งแต่ปี 2561 ราคา ICO 6.60 บาท สามารถขายได้หมดเกลี้ยงแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จราคาเปรี้ยงปร้างในตลาด ด้วยมูลค่าของเหรียญไม่เพิ่มขึ้นจนราคาลงไปต่ำถึงติดลบ กลับสามารถมาร้อนแรงสุดขีดราคาทะลุ 100 บาทและล่าสุดที่ 132.5 บาท จากต้นปี 63 อยู่ที่ 1.75 บาท 7,471 %
ปรากฎการณ์เคลื่อนไหวของบรรดาเหรียญดิจิทัลต่างๆ มีการปรับตัวขึ้นลงและผันผวนเหมือนกับการลงทุนในหุ้น แต่แตกต่างปัจจัยที่มีผลต่อราคาคาดการณ์ได้ยากกว่า ซึ่งราคาเหรียญที่ให้ผลตอบแทนตลอดทั้งปี 64 บวกเป็นเท่าตัวไม่ได้หมายความว่าจะเข้าลงทุนและได้กำไรทันที หากขาดความเข้าใจในเหรียญที่ลงทุนดีพอ